วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สรุป Fauvism Expressionism Cubism Abstractionism Futurism

ศิลปะลัทธิโฟวิสม์  Fauvism

      หมายถึง ลัทธิสัตว์ป่า 
· เมื่อเปรียบกับรูปแบบศิลปะสมัยเรอแนสซองส์ซึ่งงามตามหลักสุนทรียภาพเดิม ขณะที่ผลงานของ กลุ่มศิลปินศิลปะลัทธิโฟวิสม์กลับให้สีสันโฉ่งฉ่าง 
· แสดงถึงความเป็นปฏิปักษ์กันอย่างเห็นได้ชัด

ศิลปินลัทธิโฟวิสม์

มาทีสส์ (Matisse, Henri 1869-1954)

ผลงานช่วงแรกของมาทิสส์เป็นแบบอิมเพรสชันนิสม์ 
· งานสำคัญคือ ภาพ “ภาพเปลือยกับลวดลายเบื้องหลัง” “ ห้องสีแดง” 
·มาทีสส์สร้างงานที่ไม่เน้นรายละเอียดแบบโฟวิสม์ผ่านงานประติมากรรมด้วยและเป็นที่ยอมรับทั่วไป 
· ส่งผลต่อวงการประติมากรรมสมัยใหม่เป็นอย่างมาก



Henri Matiss. Odalisque with a Tambourine. Nice, place Charles-Félix, winter 1925-26


มาดามมาทิสส์ โดย มาทิสส์, ๑๙๐๕



ศิลปะลัทธิเอ็กเพรสชันนิสม์ 
Expressionism Art

หมายถึง การแสดงออกทางศิลปะ ที่ตัดทอนรูปทรงและสีสันอย่างเสรีที่สุด ตามแรงปรารถนา

ศิลปินสำคัญ ได้แก่ มาทีสส์ (Henri Matisse), เบคมานน์( Max Beckmann),รูโอลท์ ( Georges Rouault),
Gen Paul, มาร์ค(Franz Marc), แคนดินสกี(Wassily Kandinsky) โนลเด(Emil Nolde)

ความเคลื่อนไหวของศิลปะเอกเพรสชันนิสม์ที่สำคัญมี 2 กลุ่ม คือ
1.ศิลปินกลุ่มสะพาน (The Bridge) 
      · สะท้อนความสับสน ความอัปลักษณ์ของสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และศาสนา ความสกปรกของ  สังคม ความเหลวแหลกโสมม หลอกลวง
      ·ใช้สีที่รุนแรง
2.กลุ่มม้าสีน้ำเงิน(The Blue Rider)
       ชื่อลัทธิมาจากความนิยมในการเขียนรูปม้า และคนขี่ม้าของแกนนำทั้งสอง โดยใช้สีน้ำเงินเป็นหลัก




ศิลปะลัทธิ
Cubism  Art


·        ลัทธิคิวบิสม์ได้แนวคิด และอิทธิพลการถ่ายทอดสิ่งแวดล้อมผ่านการสร้างเป็นรูปทรงที่เรียบง่ายจากผลงานของเซซานน์ โดยแทนค่ารูปทรงด้วยแสงสีอันระยิบระยับ ให้บรรยากาศตามช่วงเวลาเท่านั้น
แนวทางการสร้างสรรค์ศิลปะลัทธิคิวบิสม์
1.ตัดทอน ย่อส่วน เพิ่มเติม และตกแต่งรูปทรงของวัตถุ ถือหลักการเพิ่มของส่วนประกอบ เพื่อให้ผลงานสมบูรณ์
2.คำนึงถึงรูปทรงเปิดและปิด โดยพิจารณาความสัมพันธ์ของพื้นที่ว่างในส่วนรูปทรงและพื้นผิว
3.คำนึงถึงความตื้นลึกด้วยรูปทรง ขนาด การทับซ้อนกัน การบังคับและการทำให้โปร่งใสคล้ายภาพเอ็กซเรย์
4.เปิดโอกาสให้ผู้ดูมีเสรีภาพในการใช้ปัญญาพินิจพิจารณาด้วยตนเอง ถือว่าศิลปะเป็นสิ่งที่ผู้ดูสามารถชื่นชมด้วยตนเอง
5.คำนึงถึงความกลมกลืนของทัศนธาตุ(เส้น สี แสงเงา รูปร่าง ลักษณะผิว) เมื่อประกอบกันเป็นเรื่องราวที่รู้จักเป็นอย่างดี รูปทรงที่เด่นได้แก่รูปทรงที่เกิดจาก เส้นเว้า เส้นตรงผสานกันอย่างเหมาะสม
6.คำนึงถึงส่วนย่อยและส่วนรวมพร้อมกัน เพื่อให้เกิดความกลมกลืนพอ ๆ กับคำนึงถึงลักษณะผิวหน้าของวัสดุแต่ละชนิด


PICASSO, "Guernica"  สมบัติส่วนตัวของปิคัสโซ, 1937


"La Vie" by Pablo Picasso 274 x 417



ศิลปะลัทธินามธรรม 
Abstractionism Art

ศิลปะนามธรรม
จำแนกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ

1.ศิลปะนามธรรมแบบโรแมนติก
 สร้างงานที่แสดงอารมณ์ความรู้สึกอย่างเสรี โดยส่งผ่านลักษณะรูปแบบศิลปะที่อิสระ
· ศิลปินอาจมีพื้นฐานทางอารมณ์มาจากความรัก ความเศร้า ความห้าวหาญ ฯลฯ แล้วแสดงออกอย่างทันที 



2.ศิลปะนามธรรมแบบคลาสสิค 

· สร้างงานที่ผ่านการคิดไตร่ตรองการวางแผนอย่างมีระบบมีกฎเกณฑ์
· โดยใช้รูปทรงเรขาคณิตควบคุม ศิลปินกลุ่มนี้มีมงเดรียน(Mondrian) เป็นผู้นำ
· ให้อิทธิพลต่อ Abstract แบบขอบคม (Op Art) ในอเมริกา





ศิลปะลัทธิฟิวเจอริสม์ (Futurism Art)


        ศิลปะลัทธิฟิวเจอริสม์ ได้ชื่อจากความเชื่อทางศิลปะของศิลปินและแนวทางการสร้างงาน คือ· มุ่งแสดงความรู้ เคลื่อนไหว จากบริบทของสังคมยุคเครื่องจักรกล ที่แพร่ในยุโรป 
· ต้องการแสดงออกถึงลักษณะของสังคมยุคใหม่

ศิลปินลัทธิฟิวเจอริสม์

ศิลปินเกือบทั้งหมดเป็นชาวอิตาลี อาทิ บอคโซนี (Boczoni)/ บาลลา (Balla)/คาร์รา(Carra)/ เซเวอรินี (Severini)/รุสโซโล (Russolo)




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น